ประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้า ที่แปรงสีฟันธรรมดาไม่มี
ประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดกับ แปรงสีฟัน แบบธรรมดาคือ การรักษาระยะเวลาในการแปรงฟันให้ครบสองนาทีตามข้อแนะนำ
หรือการแปรงฟันตามเทคนิคที่ทันตแพทย์แนะนำนั้นทำได้ยาก ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการแปรงฟันลดลง แปรงสีฟันไฟฟ้าจาก Oral-B มีคุณสมบัตินาฬิกาจับเวลาสองนาที เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟันของคุณจะสะอาดอย่างที่ทันตแพทย์แนะนำ นาฬิกาจับเวลาจะแจ้งเตือนทุก 30 วินาทีให้คุณเปลี่ยนบริเวณการแปรงฟัน (สี่บริเวณ) ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกจุดในช่องปากของคุณจะได้รับการเอาใจใส่เพื่อให้มีความสะอาดอย่างเหนือชั้น** และเพื่อปกป้องเหงือกของคุณระหว่างการแปรง แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B ซึ่งมีหัวแปรงเคลื่อนที่ในลักษณะสั่น-หมุน-ขึ้นลงและมีระบบเซ็นเซอร์ภายในตัว เพื่อแจ้งเตือนคุณว่าใช้แรงหนักไปขณะแปรงฟัน
โหมดอื่นๆ เช่น โหมดสะอาดล้ำลึก รักษาเหงือก ฟันขาว โหมดอ่อนโยน และทำความสะอาดลิ้น การตั้งค่าโหมดสะอาดล้ำลึก สามารถตั้งเวลาของนาฬิกาจับเวลาให้นานขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ฟันสะอาดยิ่งขึ้น การตั้งค่ารักษาเหงือกเพื่อนวดและกระตุ้นเนื้อเยื่อเหงือก ตัวเลือกอ่อนโยนจะลดความเร็วการขยับของหัวแปรงเพื่อทำความสะอาดอย่างนุ่มนวล แมนยู ซึ่งอาจเหมาะกับผู้ที่มีแผลหรือบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกภายในช่องปาก ความเร็วของหัวแปรงจะเปลี่ยนไปเมื่อตั้งโหมดฟันขาวซึ่งจะช่วยขัดฟันของคุณ หากตั้งให้ทำความสะอาดลิ้นระบบจะเตือนให้คุณทำความสะอาดลิ้น เพื่อลมหายใจสดชื่น
เข้าใจถึงประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้า
ข้อดี ข้อเสีย ของ แปรงสีฟันไฟฟ้า และ แปรงสีฟันธรรมดา
แปรงสีฟันไฟฟ้าถูกคิดค้นมาตั้งแต่ยุค 1930 มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพิ่มเติมปรับปรุงเรื่อยมา แต่การใช้งานหลักๆก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จนกระทั่งในช่วง 1990 แปรงสีฟันไฟฟ้ากลับมาเป็นที่นิยมอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกระหว่างแปรงสีฟันธรรมดาเลยทีเดียว คำถามคือ แปรงสีฟันไฟฟ้า ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา จริงหรือไม่? ลองมาดูข้อดีข้อเสีย เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆกันไปเลย
ข้อดี “แปรงสีฟันธรรมดา”
- ทำความสะอาดฟันได้ทั่วด้วยเทคนิคส่วนตัว – คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากให้สะอาดได้ด้วยแปรงสีฟันธรรมดา ใน 2 นาทีโดยใช้ความรู้สึกหรือเทคนิคส่วนตัวของตัวเอง
- มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ – ไม่ว่าจะเป็นขนาดหัวหัวแปรง รูปแบบของด้ามจับ สีสัน ล้วนมีให้เลือกทุกรูปแบบ เกมวัว
- พกพาไปไหนได้สะดวก ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องชาร์จไฟ
- ราคาไม่แพง – แปรงสีฟันธรรมดาราคาอยู่ที่ 20 บาท – 300 บาท ในขณะที่แปรงสีฟันไฟฟ้า ราคาอยู่ที่ 500 บาท – 10,000 บาท
ข้อเสีย “แปรงสีฟันธรรมดา”
- ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เสร็จ – การแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรแปรงให้ถึง 2 นาที แปรงสีฟันธรรมดาไม่มีระบบจับเวลาในตัว บางทีอาจใช้ความรู้สึกว่าเสร็จแล้วเป็นตัวกำหนดระยะเวลาที่แปรงฟัน แมนซิตี้
- เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ในชีวิตประจำวัน – เป็นสิ่งที่คุณต้องออกแรงเพื่อให้หน้าที่การแปรงฟันเสร็จสิ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- อาจแปรงไม่ทั่วถึง – ขนาดหัวแปรงที่ใหญ่นั้น อาจทำให้การแปรงฟันไม่ทั่วถึง เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงมุมที่เข้าถึงได้ยาก
ข้อดี “แปรงสีฟันไฟฟ้า”
- ใช้งานง่าย – แปรงสีฟันไฟฟ้าทำการแปรงให้เราอัตโนมัติ เพียงแค่จับแปรงให้ทำมุม 45 องศาเท่านั้น
ออกแรงน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มาก – ผลงานวิจัยหลายบทความ แสดงให้เห็นว่า แปรงสีฟันไฟฟ้าขนัดคราบหินปูน และป้องกันโรคเหงืออักเสพ ฟุตบอล ได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา - เกิดความรู้สึกสนุกสำหรับเด็ก – ถ้าเกิดเด็กมีความรู้สึกไม่ชอบแปรงฟันหรือไม่อยากแปรงฟัน แปรงสีฟันไฟฟ้า อาจเป็นตัวเลือกที่เด็กๆชอบ
- มีระบบจับเวลา – แปรงสีฟันไฟฟ้ามีระบบจับเวลาในตัว ไม่ต้องคาดเดาว่าเมื่อไหร่ควรหยุด
ข้อเสีย “แปรงสีฟันไฟฟ้า”
- ต้องชาร์จไฟหรือต้องใส่ถ่าน – คุณจะต้องชาร์จไฟหรืออาจต้องเปลี่ยนถ่าน
- ราคาสูงกว่าแปรงสีฟันธรรมดา – แปรงสีฟันไฟฟ้ามีราคาสูงกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ยิ่งถ้าคุณต้องการความสามารถที่เพิ่มขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน สาวถ้ำ
- อาจพกพาไปไหนมาไหนไม่สะดวก – หากคุณต้องเดินทางบ่อยๆ การพกแปรงสีฟันไฟฟ้าอาจไม่สะดวกเท่ากับแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป เนื่องจาก คุณต้องพกทั้งแปรงสีฟันและที่ชาร์จไปด้วยพร้อมๆกัน
- อาจพังได้เมื่อหล่นลงพื้น